ที่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 5 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นางลัดดาวัลย์ ชะนะศรี อายุ 44 ปี ซึ่งประกอบอาชีพทำสวนยางพารา และทำการเกษตรแบบผสมผสานเป็นอาชีพหลัก ได้ใช้บริเวณหลังบ้านเป็นพื้นที่สำหรับการทำฟาร์มเลี้ยงด้วงสาคูแบบครบวงจร ทั้งนี้ พบว่าบริเวณหลังบ้านหนาแน่นไปด้วยกะละมัง และอุปกรณ์การเลี้ยง รวมทั้งเครื่องมือในบดปั่นอาหาร และมีการแบ่งห้องสำหรับการผลิตพ่อแม่พันธุ์ไว้เป็นการเฉพาะแยกออกไปอย่างมิดชิด
นางลัดดาวัลย์ เล่าว่า ตนเองประกอบอาชีพทำสวนยางพารา และทำการเกษตรสวนผลไม้แบบผสมผสาน ทำให้มีเวลาว่างจึงคิดว่าช่วงเวลาว่างทำอะไรได้บ้างที่สามารถมีรายได้เสริมและอยู่กับบ้านได้ จนเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา เห็นในเฟสของน้องคนหนึ่งซึ่งเลี้ยงด้วงสาคู จึงสนใจเลี้ยง เพราะสามารถใช้พื้นที่ในการเลี้ยงอยู่กับบ้านได้ จึงไปดูงานที่ฟาร์มเพื่อน
จากนั้นจึงเริ่มต้นด้วยการซื้อพ่อแม่พันธุ์มาจำนวน 50 คู่ แบ่งเป็น 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์สายป่า คู่ละ 8 บาท และสายพันธุ์จัมโบ้ คู่ละ 10 บาท ด้วยเงินเริ่มต้นเพียงไม่ถึง 500 บาท
จากนั้นนำมาแยกเลี้ยงในกะละมังแบ่งเป็น 5 คู่ ต่อ 1 กะละมัง ได้รวมจำนวน 10 กะละมัง โดยเลี้ยงเพื่อผลิตพ่อแม่พันธุ์ส่งขายเท่านั้น แต่ต่อมาจึงเรียนรู้และพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ จากนั้นจึงต่อยอดมาทำเป็นด้วงสด และด้วงฟีชตัวกลม หรือด้วงแช่แข็งส่งขาย ควบคู่กับการขยายพ่อแม่พันธุ์ส่งขายไปทั่วประเทศรวมทั้งในกรุงเทพฯ และมีการจำหน่ายชุดทดลองเลี้ยงด้วย
แต่ละเดือนขณะนี้ผลิตได้ประมาณ 500-1,000 กก. ( 1 ตัน) โดยผลิตไม่พอจำหน่าย ทั้งลูกค้าประจำ และลูกค้ารายย่อย โดยลูกค้าประจำบางรายสั่งซื้อรอบละ 200- 300 กิโลกรัม ทำให้มีเท่าไรก็ไม่พอขาย ทำให้มีรายได้ประจำเดือนละประมาณ 50,000 บาท และส่วนหนึ่งจะต้องเก็บเอาไว้สำหรับการเลี้ยงขยายเป็นพ่อแม่พันธุ์ด้วย เพื่อส่งป้อนลูกค้าประจำรายเดือน และรองรับออเดอร์ใหม่ๆที่ เข้ามาด้วย แต่ละเดือนมียอดสั่งเข้ามาหลายพันคู่ ผลิตไม่พอขายเช่นกัน
ขอบคุณภาพ-ข้อมูล
เกษตรกรตรัง เลี้ยงด้วงครบวงจร ขายพ่อ-แม่พันธุ์ ด้วงสด ด้วงแช่แข็ง รายได้งามครึ่งแสนต่อเดือน
ปรึกษาปัญหาเกษตรโทร.02-104-9999
ทักแชท https://m.me/kasetnewstv
ไลน์ @Kasetnews หรือกด
กด Like และ ติดตามเพจ
เพื่อรับข่าวสารด้านเกษตรก่อนใครได้ที่นี่
#ช่องเกษตรนิวส์ ดูได้ที่กล่อง PSI หมายเลข 72