ต้นไม้อีกหนึ่งสิ่งของประดับตกแต่งประจำบ้านที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ยิ่งหากเป็น ต้นไม้ที่มีกลิ่นหอม ด้วยแล้ว จะยิ่งช่วยให้บ้านสงบ ร่มรื่น รวมทั้งอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมเสมอ บทความนี้ได้รวบรวม 7 ต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมที่ปลูกในบ้านได้มาฝากกัน
1. ต้นเลมอน
ต้นเลมอน (Indoor Citrus) มีขนาดพอดี ต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมเหมาะแก่การเป็นต้นไม้ปลูกในบ้าน ใบเขียวเข้ม มีผลคล้ายส้มลูกเล็ก ส่งกลิ่นหอมอมส้มอบอวลไปทั่วบ้าน สามารถนำมาปลูกภายในห้องหรือคอนโดได้ง่าย เพราะใช้พื้นที่การเลี้ยงน้อย รวมทั้งดูแลไม่ยากอีกด้วย
ต้นเลมอนปลูกอย่างไร
– วางกระถางต้นเลมอนหันหน้าไปทิศใต้หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อให้ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง
– วางกระถางบนถาดที่มีก้อนกรวดเต็มถาด เพื่อคงความชุ่มชื้นจากน้ำที่รดให้กับต้นเลมอน
– ปลูกในดินร่วนระบายน้ำได้ดี
-ตรวจดูรากของต้นไม้ทุก ๆ 2 วัน เพื่อไม่ให้รากเน่า
2. กล้วยไม้
กล้วยไม้ (Orchids) หรือเอื้อง มีความหลากหลายทางสายพันธุ์มาก โดยกล้วยไม้ในธรรมชาติมีมากถึง 25,000 ชนิด นับเป็นไม้ส่งออกที่สำคัญของไทย ลำต้นไร้แก่นและเปลือก มีตาที่จะแตกหน่ออ่อน กิ่งอ่อน หรือช่อดอก ใบเดี่ยว มีลักษณะใบ สีสัน และขนาดแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์
ส่วนมากใบมีสีเขียวอมเหลือง ช่อดอกมักออกดอกยาวบ้าง สั้นบ้าง ตามแต่ชนิด ทั้งนี้ กลิ่นของกล้วยไม้ก็มีลักษณะความหอมแตกต่างกันไปตามด้วย วิธีเลือกกล้วยไม้ที่มีกลิ่นหอมตรงใจจึงควรไปซื้อถึงเรือนเพาะเลี้ยง และขอคำแนะนำจากผู้ปลูกโดยตรง
กล้วยไม้ปลูกอย่างไร
– ควรศึกษาให้ดีว่าพันธุ์กล้วยไม้ที่ปลูกนั้นชอบแสงน้อยหรือแสงเยอะ เพื่อที่จะได้จัดวางที่สำหรับปลูกได้อย่างเหมาะสม
– มักโตได้ดีในอุณหภูมิ 21-29 องศาเซลเซียส
– ไม่ควรปลูกในกระถางทั่วไป ควรเลือกกระถางสำหรับปลูกกล้วยไม้โดยเฉพาะ
– ใส่ปุ๋ยทุกสองสัปดาห์ โดยใช้ปุ๋ยสูตร 20-20-20 (ไนโตรเจน บำรุงใบ – ฟอสฟอรัส บำรุงดอก – โพแทสเซียม บำรุงลำต้น)
-รดน้ำสัปดาห์ละครั้ง
3. มะลิ
มะลิ (Jasmine) จัดเป็นพืชไม้พุ่มหรือไม้เถา ถือเป็นหนึ่งในพืชที่มีสายพันธุ์มากชนิดหนึ่ง โดยมีมากถึง 200 ชนิด น้ำมันหอมระเหยจากดอกมะลิมีสารช่วยกระตุ้นอารมณ์รักได้เหมือนกับดอกลาเวนเดอร์ วานิลา กุหลาบ และเปปเปอร์มินต์
มักนำมาใช้บริโภคทั่วไปและใช้เป็นสรรพคุณทางยา ไม่ว่าจะนำดอกมะลิมาแช่น้ำเย็นดับกระหายชื่นใจ หรือนำดอกแห้งต้มน้ำหรือชงน้ำร้อนดื่ม เพื่อเป็นยากระษัย กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ส่วนใบนำมาตำกับกากมะพร้าว พอกแผลพุพอง นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่าช่วยถอนพิษไข้ แก้ร้อนใน รักษาอาการปวดท้อง และแผลเรื้อรังต่าง ๆ
มะลิปลูกอย่างไร
– ควรให้รับแสงแดดมากที่สุด โดยเฉพาะหน้าร้อน
– ควรวางกระถางต้นมะลิให้ห่างจากเครื่องปรับอุณหภูมิในกรณีที่นำมาปลูกข้างในบ้าน
– วางกระถางบนถาดรองที่มีก้อนกรวดเต็มถาด โดยเติมน้ำใส่ไว้ในถาด เพื่อคงความชุ่มชื้นให้กับต้นไม้
– ควรปลูกในดินพีทมอส เพื่อช่วยให้ระบายน้ำและอากาศได้ดี
– ใส่ปุ๋ยสูตร 20-20-20 (ไนโตรเจน บำรุงใบ – ฟอสฟอรัส บำรุงดอก – โพแทสเซียม บำรุงลำต้น)
– รดน้ำเมื่อดินเริ่มแห้งเกินไป
4. สะระแหน่
สะระแหน่ (Lemon Balm) จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับมินต์และกะเพรา ลำต้นมีความสูงประมาณ 70-150 เซนติเมตร เมื่อโตเต็มที่ ใบเขียวเข้มคล้ายกับใบมินต์ แต่กลิ่นคล้ายใบมะนาว มักออกดอกสีขาวในช่วงปลายหน้าร้อน
ดอกของสะระแหน่อุดมไปด้วยน้ำหอมและน้ำหวาน รสชาติคล้ายมะนาวและตะไคร้หอม มักส่งกลิ่นน้ำมันหอมระเหยออกมา เดิมทีมักใช้เป็นยาในการแก้อาการป่วยต่าง ๆ เช่น ปวดศีรษะ ปวดฟัน เจ็บคอ ท้องร่วง แมลงสัตว์กัดต่อย เลือดกำเดาไหล เป็นต้น
สะระแหน่ปลูกอย่างไร
– ปลูกในที่ที่แสงแดดส่องถึงได้ง่าย
– ควรให้อยู่ห่างจากที่ที่เสี่ยงได้รับความร้อนโดยตรง เพื่อเลี่ยงใบถูกทำลาย
– ปลูกในกระถางเล็ก ๆ ใช้ดินร่วนทั่วไป โดยเจาะรูใต้กระถางสำหรับระบายน้ำให้เรียบร้อย
– วางชิ้นไม้สับ 2-3 ชิ้น บนหน้าดินในช่วงที่อากาศร้อน เพื่อช่วยให้ดินคงความชุ่มชื้นไว้
– ใส่ปุ๋ย 2 สัปดาห์ครั้ง โดยใช้ปุ๋ยสูตร 20-20-20 (ไนโตรเจน บำรุงใบ – ฟอสฟอรัส บำรุงดอก – โพแทสเซียม บำรุงลำต้น)
5. หอมหมื่นลี้หรือสารภีฝรั่ง
หอมหมื่นลี้ (Sweet Olive) หรือสารภีฝรั่ง เป็นพืชตระกูลเดียวกับมะลิ หลายคนอาจรู้จักหรือได้ยินชื่อของ “หอมหมื่นลี้” ในฐานะเครื่องดื่มชา แต่จริง ๆ แล้ว ต้นหอมหมื่นลี้หรือสารภีฝรั่งถือเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมปลูกในบ้าน
โดยนิยมปลูกเป็นไม้ประดับในทางตอนใต้ของญี่ปุ่นและแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลำต้นสูงถึง 8 เมตร ใบเดี่ยว รี มันวาว ดอกสีขาว ออกดอกเป็นช่อกระจุกเล็ก ๆ ช่วงตุลาคม-กุมภาพันธ์ มักส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ออกกลิ่นส้มเล็กน้อยตลอดทั้งวัน
หอมหมื่นลี้หรือสารภีฝรั่งปลูกอย่างไร
– ปลูกใกล้กับทิศใต้หรือทิศตะวันตก หันหน้ารับแสงแดด
– ควรนำมาปลูกข้างในบ้านช่วงหน้าร้อน เพื่อไม่ให้ได้รับความร้อนจากแสงแดดมากเกินไป
– คุมอุณหภูมิให้เย็นกว่าปกติ โดยเฉพาะตอนกลางคืน เพื่อช่วยให้ต้นหอมหมื่นลี้ออกดอกสวยงาม
– ควรปลูกในดินร่วนระบายน้ำได้ดี
– เมื่อยอดของต้นโตขึ้นมาจากดินประมาณ 3 นิ้ว ควรหมั่นให้น้ำอาทิตย์ละครั้ง โดยต้องให้น้ำบ่อย ๆ ในช่วงหน้าร้อน
6. แตรนางฟ้า
แตรนางฟ้า (Angel’s Trumpet) จัดเป็นพืชตระกูลเดียวกับพริก มะเขือ มะเขือเทศ และยาสูบ ลักษณะ
เป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 2-3 เมตร ใบเรียว รี มีขนนุ่ม บาง และยาวประมาณ 18-25 เซนติเมตร ลำต้นมีเปลือกขาว ฉ่ำน้ำ กิ่งเปราะง่าย
เมื่อโตขึ้นลำต้นจะโน้มลงพื้น ดอกบานคว่ำลง คล้ายแตรหรือลำโพง มีทั้งสีม่วง เหลือง ชมพู และพีช มักออกดอกตลอดปี โดยเฉพาะหน้าฝน ปกติแล้วจะส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ตอนกลางวัน และส่งกลิ่นแรงขึ้นตอนประมาณพลบค่ำถึงตอนเช้า
แตรนางฟ้าปลูกอย่างไร
– ปลูกได้ทั้งในสวนและภายในตัวบ้าน โดยต้องหมั่นดูแลรักษาให้พ้นจากตัวเพลี้ย เพลี้ยแป้ง ไรแดง และศัตรูพืชอื่น ๆ
– วางในที่แสงแดดส่องถึงง่าย เพื่อช่วยให้ออกดอกสวยงาม
– ควรคุมอุณหภูมิให้อยู่ประมาณ 15-23 องศาเซลเซียส
– ปลูกในดินที่ซึมน้ำไว ให้ปุ๋ยอาทิตย์ละครั้ง
– หมั่นรดน้ำประมาณ 2-3 วันต่ออาทิตย์ โดยช่วงหน้าหนาวอาจให้น้ำน้อยลง เพื่อช่วยให้ดินแห้งไว ไม่ชื้นเกินไป
7. ลีลาวดี
ลีลาวดี (Frangipani) เป็นพืชตระกูลเดียวกับตีนเป็ด นับเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ปลูกในบ้านยอดนิยมนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ชื่อเรียกพื้นเมืองหลากหลาย ได้แก่ จำปา จำปาลาว และจำปาขอม มีทั้งแบบพุ่มเตี้ยและเป็นต้นสูง ลำต้นแตกกิ่งและพุ่มใบ ผลัดใบช่วงหน้าร้อน กิ่งสีเขียวอ่อน นุ่ม ดูอิ่มน้ำ ใบเดี่ยวเรียงตัวบริเวณปลายกิ่ง
ลักษณะใบหนา เหนียว และแข็ง มีสีเขียวอ่อนถึงเข้ม ขึ้นอยู่กับอายุของต้นผลิดอกเป็นช่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน มีหลากหลายสายพันธุ์ แตกต่างกันทั้งสีสัน ลักษณะกลิ่น
ลีลาวดีปลูกอย่างไร
– ปลูกไว้ในที่ที่แสงแดดส่องถึงง่าย โดยควรให้โดนแดดวันละ 4-6 ชั่วโมง เป็นอย่างต่ำ
– ฉีดน้ำตรงใบวันละ 1-2 ครั้ง พอให้ชุ่มชื้น
– ปลูกในดินทรายผสมดินร่วน โดยผสมดินทรายและดินร่วนอย่างละ 1 ส่วน
– หมั่นใส่ปุ๋ยเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยใช้ปุ๋ยสูตร 10-50-10 (ไนโตรเจน บำรุงใบ – ฟอสฟอรัส บำรุงดอก – โพแทสเซียม บำรุงลำต้น)
– หมั่นรดน้ำเป็นประจำในช่วงหน้าร้อน
7 ต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมปลูกในบ้านข้างต้น ซึ่งมีทั้งต้นไม้ที่เป็นที่รู้จักชื่อกันอยู่แล้วและต้นไม้ที่ไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไหร่ ทั้งกลิ่น รูปร่างหน้าตา สีสัน ตลอดจนการปลูกและเลี้ยงต้นไม้แต่ละประเภทก็แตกต่างหลากหลาย สามารถซื้อหามาปลูกกันได้ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบต้นอะไร และแบบไหนตอบโจทย์ไอเดียจัดสวนภายในบ้านของคุณได้อย่างเหมาะสม
ขอขอบคุณ : www.sanook.com